เช็กก่อนซื้อ! รวมเคล็ดลับการเลือกประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายและแบบอื่น ๆ
เพราะสุขภาพเป็นเรื่องที่ ‘ไม่แน่นอน’ วันดีคืนดีอาจเจ็บป่วยได้อย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อร่างกายของเราโดยตรงแล้ว ปัญหาสุขภาพเองก็ยังส่งผลต่อสุขภาพทางการเงินของเราด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อเสริมความอุ่นใจด้านการเงินในการดูแลสุขภาพ นอกจากจะต้องดูแลในเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย และตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำแล้ว การเลือกทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองการรักษายอย่างครอบคลุม ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ในวันนี้ เพื่อเป็นการช่วยให้ทุกคนได้เลือกประกันสุขภาพได้เหมาะกับตัวเองและคนที่รักมากที่สุด ‘อีซี่ อินชัวร์’ จะพาทุกคนไปรู้จักกับประกันสุขภาพแบบว่ามีกี่แบบ และแบบใดที่เหมาะกับเงื่อนไขและความต้องการของตัวเอง รวมถึงประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะคุ้มกว่าประกันสุขภาพคุ้มครองรายการเดียวจริงหรือไม่ มาหาคำตอบได้แล้วที่นี่
รู้จักประกันสุขภาพกันก่อน
การจะเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะกับตัวเองและคนที่รักได้ เราต้องรู้ก่อนว่าจริง ๆ แล้วประกันสุขภาพคืออะไรกันแน่ โดยประกันสุขภาพนั้นจะเป็นการประกันภัยประเภทหนึ่งที่เราทำข้อตกลงกับบริษัทประกันภัยในเงื่อนไขที่ว่า บริษัทประกันภัยจะต้องชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลของผู้เอาประกันภัย ซึ่งค่ารักษาพยาบาลและเงื่อนไขการชดเชยค่าใช้จ่ายนั้นจะแตกต่างกันไปตามกรมธรรม์ที่เราทำสัญญาเอาไว้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ประกันสุขภาพจะชดเชยค่ารักษาพยาบาลทั้งจากโรคภัย การเจ็บป่วย รวมถึงการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
คำถามยอดฮิต 1 : ถ้ามีประกันอุบัติเหตุแล้วจำเป็นต้องซื้อประกันสุขภาพอยู่ไหม?
‘อีซี่ อินชัวร์’ ขอแนะนำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่า จริง ๆ แล้วเงื่อนไขของประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพแบบต่าง ๆ ทั้งแบบคุ้มครองเดี่ยวและประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนั้นจะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก รวมถึงประกันอุบัติเหตุจะมีเบี้ยประกันที่น้อยกว่า แต่ก็สามารถคุ้มครองเราในกรณีเกิดอุบัติเหตุได้ทั้งการบาดเจ็บต่อร่างกาย สูญเสียอวัยวะ ตลอดจนทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต อีกทั้งในบางกรมธรรม์ก็อาจมีเงื่อนไขชดเชยรายได้ขณะเข้ารับการรักษาได้ แต่ประกันสุขภาพนั้นจะเน้นการคุ้มครองสุขภาพของเราในทุก ๆ ด้านมากกว่า ดังนั้น การตัดสินใจว่าจะทำประกันสุขภาพเพิ่มดีหรือไม่ หรือควรทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มเติมจึงขึ้นอยู่กับความต้องการ ความพร้อม และเงื่อนไขในด้านต่าง ๆ ในชีวิตของเรามากกว่า แต่หากต้องการป้องกันทุกเรื่องร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิต ก็สามารถเลือกทำประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุพร้อมกันได้
คำถามยอดฮิต 2 : ประกันสุขภาพแตกต่างจากประกันชีวิตอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายและทุก ๆ แบบจะคุ้มครองเราในด้านของสุขภาพเป็นหลัก เช่น หากล้มป่วยถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลการมีประกันสุขภาพก็จะสามารถช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายและชดเชยรายได้ของเราได้ เป็นต้น ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือ ประกันสุขภาพนั้นจะคุ้มครองเราในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่นั่นเอง และในทางตรงกันข้าม ประกันชีวิตนั้นจะคุ้มครองกรณีเสียชีวิต และ/หรือจะมอบผลประโยชน์ให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่เราระบุไว้ หรือในบางกรมธรรม์อาจระบุให้คุ้มครองและคืนผลประโยชน์ให้กับเราเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่ง เช่น บางกรมธรรม์อาจระบุ Survival Benefits หรือ Death Benefits ที่อายุ 90 ปี ดังนั้น หากเราอยู่จนอายุครบ 90 ปีตามประกัน บริษัทก็จะคืนผลประโยชน์ให้เราได้ เป็นต้น ซึ่งจากทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า ประกันสุขภาพนั้นจะเน้นการดูแลสุขภาพของเราเป็นหลัก และช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาได้ แต่ประกันชีวิตนั้นจะเน้นการดูแล ‘คนที่อยู่ข้างหลัง’ ที่ต้องใช้ชีวิตหลังจากเราเสียชีวิตนั่นเอง
ประเภทของประกันสุขภาพที่ควรรู้
นอกจากจะรู้จักถึงประกันสุขภาพและความแตกต่างจากประกันประเภทอื่น ๆ แล้ว การเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะกับตัวเองและคนที่รักยังต้องพิจารณาถึงประเภทของประกันสุขภาพอีกด้วย โดยทั่วไปแล้ว หากแบ่งตามความคุ้มครอง เราจะสามารถแบ่งประกันสุขภาพออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ดังนี้
1. ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองรายการเดียว
ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองรายการเดียวนั้นจะเน้นไปที่การคุ้มครองตามประเภทของการให้บริการ หรือตามลักษณะอาการ และความรุนแรงของอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังจำกัด ‘วงเงิน’ ในการรักษาเอาไว้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะสามารถแบ่งได้เป็น 4 แบบ ประกอบไปด้วย
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD)
ความคุ้มครอง : บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เราเจ็บป่วยและต้องนอนโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง หรือเสียชีวิตในขณะรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD)
ความคุ้มครอง : คุ้มครองในกรณีเจ็บป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ไม่ถึงกับนอนโรงพยาบาล
- ประกันสุขภาพชดเชยรายได้
ความคุ้มครอง : คุ้มครองเฉพาะเมื่อมีการต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งทางบริษัทจะชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปจากการรักษาตัวเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาล
- ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง (ECIR)
ความคุ้มครอง : ให้ความคุ้มครองโรคร้ายที่ต้องใช้การรักษาเฉพาะทาง มีวิธีการรักษาที่ซับซ้อน ใช้เวลารักษานาน และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง เช่น โรคมะเร็ง กลุ่มโรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งโรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครองจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์
2. ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนั้นจะแตกต่างจากประกันสุขภาพแบบอื่น ๆ ในเรื่องของ ‘วงเงินค่ารักษาพยาบาล’ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว หากเป็นประกันแบบเหมาจ่ายนั้นมักจะไม่ได้กำหนดวงเงินค่ารักษาพยาบาลเอาไว้ แต่ทุกค่ารักษาพยาบาลจะถูกคิดรวมอยู่ในเงินตามแผนประกัน อีกทั้งยังไม่ได้กำหนดจำนวนการรักษาภายใน 1 ปี ดังนั้น ตราบใดที่ยังรักษาไม่เกินวงเงินที่กำหนด เราก็สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้เรื่อย ๆ ซึ่งประกันประเภทนี้ยังครอบคลุมการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง จึงสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
แต่อย่างไรก็ตาม ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนั้นจะมีเงื่อนไขค่ารักษาพยาบาลที่แตกต่างกันไปตามนโยบายของบริษัทประกัน ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง อย่าลืมสอบถามกรมธรรม์และความคุ้มครองให้ละเอียด เพราะหากไม่พิจารณาในส่วนนี้ให้ดีอาจเสียเงินทำประกันแต่ไม่ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่านั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเรื่องประกันสุขภาพแบบต่าง ๆ ที่นำมาฝาก หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนได้รู้จักและเลือกประกันที่เหมาะกับความต้องการตามเงื่อนไขชีวิตของทุกคนได้ และถ้าหากใครกำลังมองหาประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายและแบบอื่น ๆ ‘อีซี่ อินชัวร์’ พร้อมช่วยคุณเปรียบเทียบประกันสุขภาพทุกแบบจากทุกบริษัทประกันภัยชั้นนำเพื่อตามหาประกันสุขภาพที่ใช่ในราคาที่ดีที่สุด หากต้องการรายละเอียดของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย และประกันสุขภาพแบบต่าง ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบได้เลย