อยากแชร์ประสบการณ์สำหรับเรื่องราวของประสบการณ์เรื่อง ประกันรถยนต์ บอกเลยว่ารถเราเก่าแล้วและทำประกันชั้น 3+ ซึ่งครอบคลุมคู่กรณีในวงเงินพอสมควร ซึ่งจริงๆแล้วรถของเรานั้นเก่า หลายๆคนแนะนำว่าทำแค่ พ.ร.บ.หรือแค่ประกันชั้น 3 ถูกๆธรรมดาๆก็พอ แต่เราคิดว่าหากจ่ายเพิ่มอีกนิดได้ความคุ้มครองเพิ่มอีกหน่อยน่าจะดีกว่า
ซึ่งเราก็ดูจากข้อมูลต่างๆของประกันรถในอินเตอร์เน็ตเลยเลือก 3+และเพิ่มวงเงินประกัน ค่าเบี้ยราวๆ เจ็ดพันกว่าๆ แต่มีส่วนลดให้ก็ราวๆหกพันปลายๆ ที่บ้านเราบอกว่าจ่ายแพงไม่คุ้มเลย แต่แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ที่บอกได้ว่า เราโชคดีที่ทำประกันภัยรถยนต์ไว้และเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทางบ้านเราหุบปากสนิทเรื่องประกันรถยนต์กันเลยทีเดียว
เรื่องมีอยู่ว่าเราขับรถไปชนกับรถมอเตอร์ไซค์และคู่กรณีบาดเจ็บต้องเขารักษาตัวที่โรงพยาบาลร่วมอาทิตย์เพราะแขนหัก และมีบาดแผลภายนอกหลายแห่ง ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะชนจริงๆแต่เพราะความสะเพร่าของเราเองที่ไม่ได้ตรวจสภาพรถเลยไม่รู้ว่าเบรกไม่ค่อยดีประกอบกับฝนตกถนนลื่นเราเบรกรถไม่อยู่เลยชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์อย่างจัง
แต่ดีที่รถเรามาไม่เร็วมากเลยทำให้ชนไม่แรงเท่าไหร่ก็ทำให้เกิดความเสียหายและบาดเจ็บกับคู่กรณีได้อย่างที่เล่า และถือว่าโชคดีที่เรามีประกันรถยนต์และยังอยู่ในความคุ้มครอง พ.ร.บ.ไม่ขาด ทะเบียนไม่ขาด และเรามีใบขับขี่ที่ไม่หมดอายุ ซึ่งทำให้เราได้ใช้สิทธิจาการทำประกันได้อย่างเต็มตามกรมธรรม์ ซึ่งเราทำประกันชั้น 3+
ซึ่งประกันบริษัทที่เราทำนั้นกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองคู่กรณีค่าบาดเจ็บ 3 แสนบาท ค่าเสียหายรถและทรัพย์สิน 1 แสนบาท ซึ่งเมื่อพนักงานมาทำเรื่องเคลมประกันให้เราและดำเนินเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้คู่กรณีทั้งหมดอยู่ในวงเงินประกันพอดีเราเลยไม่ต้องเสียเงินเอง แต่หากเราเชื่อที่บ้านไม่ทำประกันรถยนต์ รับรองว่าเราจ่ายอานแน่ ๆ เพราะแค่ พ.ร.บ. ก็คงไม่พอแน่นอนเพราะคุ้มครองแค่รักษาและได้ไม่กี่บาท แต่ประกันได้วงเงินค่ารักษามากกว่าทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าจะมีเงินจ่ายหรือไม่
นอกจากนี้เรายังได้ประสบการณ์หลายอย่างจากกรณีคือ ด้วยสภาพรถเราที่ค่อนข้างเก่าแม้จะใช้งานได้อยู่ก็ควรต้องตรวจสภาพบ้างตามระยะเวลาไม่เช่นนั้นเราอาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้อีก แล้วอีกส่วนคือเรื่องของการทำประกันรถ ยอมรับเลยว่าที่บ้านเราอคติกับ ประกันรถยนต์ และคิดว่ามันเสียเยอะ ไม่ทำก็ได้กฎหมายไม่บังคับ แต่เราเลือกที่จะทำและยอมจ่ายเองทั้ง ๆ ที่รถยนต์ที่เราใช้นั้นเป็นรถยนต์คันเดียวของที่บ้านที่พ่อเราขับบ้าง น้องเราขับบ้าง ว่าง่ายๆทั้งบ้านมีรถคันเดียวแต่ขี้เหนียวไม่ยอมจ่าย ประกันรถยนต์ กัน ช่วยกันจ่ายแค่ค่าน้ำมันและค่าซ่อมบางครั้งบางคราว
แต่พอหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทุกคนยอมรับเลยว่า ประกันรถยนต์ มีประโยชน์จริงๆ และโชคดีที่เราทำเอาไว้และยังดีที่เราเป็นคนไปประสบเหตุเองเพราะทำประกันไว้ในชื่อของเรา ทีนี้ทั้งบ้านเลยอยากให้ทำประกันที่ครอบคลุมเยอะๆ และจะช่วยกันจ่ายค่าประกันเพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาอย่างน้อยๆวงเงินประกันสูงๆก็ยังช่วยลดภาระส่วนที่ต้องจ่ายไปได้บ้างหรือไม่ต้องจ่ายเลย
