‘ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย’ ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง - Easy Insure

ประกันภัยอัคคีภัย ความจำเป็นเรื่องบ้านที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม

คนมีบ้านต้องรู้! ‘ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย’ จำเป็นกับบ้านมากกว่าที่คิด

เพราะโจรขึ้นบ้านกี่ครั้งก็ไม่เท่ากับไฟไหม้บ้านเพียงครั้งเดียว

ดังนั้น เพื่อป้องกันเหตุร้ายและความเสียหายจากอุบัติเหตุอย่างไฟไหม้ และสารพัดภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว ไม่เพียงแต่จะต้องหมั่นตรวจเช็กระบบต่าง ๆ อย่างโครงสร้างของบ้าน รวมถึงการเช็กระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านเป็นประจำเท่านั้น รู้หรือไม่? การทำประกันบ้านในรูปแบบต่าง ๆ อย่างประกันไฟไหม้บ้าน และประกันภัยพิบัติอื่น ๆ เอาไว้ก็เป็นอีกหนึ่งความจำเป็นที่เจ้าของบ้านหลายคนไม่รู้มาก่อนว่า สามารถเพิ่มความอุ่นใจให้การอยู่อาศัยได้จริง แล้วประกันบ้านคืออะไร เจ้าของบ้านจำเป็นต้องทำประกันภัยอัคคีภัยให้บ้านจริงหรือไม่ วันนี้ ‘อีซี่ อินชัวร์’ มีคำตอบ

‘ประกันบ้าน’ หรือ ‘ประกันภัยอัคคีภัย’ คืออะไร?

ประกันบ้าน หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักในชื่อของประกันภัยอัคคีภัยนั้นจัดเป็นประกันวินาศภัยที่ให้ความคุ้มครองบ้าน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัยอย่างคอนโด โดยประกันบ้านนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

1. ประกันภัยอัคคีภัย

ประกันที่อยู่อาศัยที่คุ้มครองเรื่องไฟไหม้ หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ‘ประกันไฟไหม้บ้าน’ นั้นจะเป็นประกันที่คุ้มครองบ้านและสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัยจากอัคคีภัยที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติ และจากเหตุสุดวิสัยของมนุษย์ เช่น ไฟไหม้บ้านจากแก๊สหุงต้ม ไฟไหม้จากเหตุเฉี่ยวชนจากยานพาหนะผู้อื่น ไฟไหม้จากเหตุฟ้าผ่า และไฟไหม้จากอุบัติเหตุอากาศยาน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี บางกรมธรรม์ก็อาจให้ความคุ้มครองภัยที่เกิดจากน้ำ เช่น การรั่วซึมของท่อประปาภายในบ้าน หลังคารั่วจนทำให้น้ำไหลเข้าบ้าน หรือความเสียหายต่าง ๆ ที่ทำให้น้ำไหลเข้าบ้านได้ เป็นต้น

2. ประกันภัยพิบัติ

แต่อย่างไรก็ดี อุบัติเหตุภายในบ้านก็ไม่ได้มาในรูปแบบของไฟไหม้เสมอไป ดังนั้น บริษัทประกันหลาย ๆ แห่งจึงออกแผนประกันภัยพิบัติเพื่อเสริมความคุ้มครองจากประกันไฟไหม้บ้านอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนของภัยจากพายุ น้ำท่วม และแผ่นดินไหว โดยเงื่อนไขการคุ้มครองนั้นจะแตกต่างกันตามความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น บางกรมธรรม์อาจระบุว่าจะชดเชยความเสียหาย 100% ในกรณีที่น้ำท่วมสูงตั้งแต่ 100 เซนติเมตรเมื่อวัดจากพื้นอาคาร ในขณะที่บางกรมธรรม์อาจไม่รับผิดชอบค่าเสียหายหากคณะรัฐมนตรียังไม่ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรง

ประกันบ้านให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?

เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติขึ้น หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าประกันภัยอัคคีภัยนั้นสามารถให้ความคุ้มครองบ้านได้อย่างไรบ้าง ดังนั้น เพื่อไขข้อสงสัยนี้ ‘อีซี่ อินชัวร์’ จึงอยากขออธิบายรายละเอียดในการคุ้มครองออกเป็น 2 ประเภท ประกอบไปด้วย

1. เงื่อนไขการคุ้มครองตัวบ้านที่ไม่รวมรากฐาน

ประกันอัคคีภัยบ้านส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครอง ‘ส่วนประกอบ’ ของบ้านและที่อยู่อาศัยที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และอยู่เหนือพื้นดิน เช่น ผนัง พื้น เสา รั้ว หน้าต่าง ประตู รวมถึงโรงจอดรถ

2. เงื่อนไขการคุ้มครองทรัพย์สินในบ้าน

ในความเป็นจริงนั้น บ้านและที่อยู่อาศัยไม่ได้มีเพียงแค่โครงสร้างบ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เจ้าของบ้านซื้อเอาไว้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ บริษัทประกันหลาย ๆ แห่งยังได้เพิ่มเงื่อนไขการคุ้มครองทรัพย์สินในบ้านประเภทเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และทรัพย์สินอื่น ๆ เพื่อการอยู่อาศัยเข้าไปในประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ในบางกรมธรรม์ยังได้เพิ่มความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการถูกโจรกรรมเข้าไปอีกด้วย 

จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยบ้านจริงไหม?

เจ้าของบ้านหลาย ๆ คนอาจมองว่า ประกันไฟไหม้บ้านนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เพราะเชื่อว่าเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นจากความประมาท หรือในขณะเดียวกัน เจ้าของบ้านบางคนก็มีประกันอัคคีภัยบ้านติดมาตั้งแต่ซื้อบ้านในครั้งแรกแล้ว แต่อย่างไรก็ดี การพิจารณาความจำเป็นในการซื้อประกันบ้านนั้นอาจแบ่งได้เป็น 2 กรณี ดังนี้

1. กรณีที่จำเป็นต้องทำประกันภัยอัคคีภัย

ตามกฎหมายแล้ว เจ้าของบ้านที่กู้เงินซื้อบ้านกับธนาคารทุกคนจำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยบ้านไปจนกว่าจะผ่อนบ้านหมดตามสัญญา เนื่องจากประกันในส่วนนี้จะใช้เป็นหนึ่งในหลักประกันให้กับธนาคารในกรณีที่บ้านเกิดความเสียหายขึ้น 

แต่อย่างไรก็ดี เจ้าของบ้านทุกคนยังต้องพิจารณาให้ละเอียดด้วยว่า ประกันไฟไหม้บ้านที่ทำไปนั้นให้ความคุ้มครองในส่วนใดบ้าง เพราะถึงในกรมธรรม์จะระบุว่าคุ้มครองความเสียหายของบ้านที่ไม่รวมรากฐาน แต่กรมธรรม์ก็ไม่ได้ระบุถึงเงินซ่อมแซมหลังเหตุไฟไหม้เช่นกัน ดังนั้น หากไม่อยากเสียเงินเพิ่มหลายต่อ อย่าลืมเช็กรายละเอียดกรมธรรม์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกทำประกันด้วย

2. กรณีที่ไม่จำเป็นต้องทำประกันภัยอัคคีภัย

เจ้าของบ้านที่ซื้อบ้านและที่อยู่อาศัยด้วยเงินสด และไม่มีภาระผูกพันกับธนาคารสามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันภัยอัคคีภัยให้บ้านหรือไม่ แต่หากเจ้าของบ้านคนไหนที่ต้องการเพิ่มความอุ่นใจให้อุบัติเหตุและภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันตั้งตัว การทำประกันบ้านเอาไว้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่ควรค่าแก่การพิจารณาเช่นเดียวกัน

 จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยบ้านไหม - Easy Insure

จะพิจารณาเลือกทำประกันภัยอัคคีภัยอย่างไร?

เพื่อให้เจ้าของบ้านทุกคนได้มีประกันภัยอัคคีภัยในเงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ก่อนเลือกทำประกันบ้านทุกครั้ง ‘อีซี่ อินชัวร์’ ขอแนะนำให้เจ้าของบ้านทุกคนพิจารณาถึง 3 ปัจจัยสำคัญ ดังนี้ 

1. พิจารณาทุนประกันภัย

เพราะอุบัติเหตุและภัยพิบัตินำมาซึ่งความเสียหายที่ต้องใช้เงินซ่อมแซมภายหลัง ดังนั้น ปัจจัยแรกที่เจ้าของบ้านทุกคนควรพิจารณาในประกันบ้านให้ดีก็คือทุนประกันภัยที่เราจะได้รับ โดยทุนประกันภัยที่ควรได้รับในทุกกรมธรรม์นั้นควรจะให้ความคุ้มครองไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่าบ้าน เช่น หากบ้านราคา 5 ล้านบาทก็ควรเลือกทุนประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองขั้นต่ำ 3.5 ล้านบาท เป็นต้น 

แต่อย่างไรก็ดี เจ้าของบ้านก็ไม่ควรเลือกประกันภัยอัคคีภัยที่กรมธรรม์ที่มีทุนประกันสูงกว่ามูลค่าจริงของบ้าน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว บริษัทประกันจะให้ทุนประกันสูงสุดเท่ากับมูลค่าจริงของบ้าน เช่น หากบ้านราคา 5 ล้านบาท แต่เลือกซื้อกรมธรรม์ที่มีทุนประกัน 10 ล้านบาท หากเกิดเหตุร้ายขึ้นมา บริษัทประกันก็จะชดเชยแค่ 5 ล้านบาทเท่านั้น

2. พิจารณาเบี้ยประกันไฟไหม้บ้าน

โดยส่วนใหญ่แล้ว เบี้ยประกันบ้านจะอยู่ที่ 0.1% ของทุนประกันภัย เช่น หากบ้านราคา 5 ล้านบาท ทุนประกันภัย 70% ของมูลค่าบ้านก็จะอยู่ที่ 3.5 ล้านบาท ดังนั้น ในแต่ละปีเจ้าของบ้านก็จะเสียเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ปีละ 3,500 บาทต่อปีโดยที่ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แต่โดยทั่วไปแล้ว หากเจ้าของบ้านตัดสินใจทำประกันไฟไหม้บ้านยาวต่อเนื่อง เบี้ยประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยก็อาจลดลงตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทได้เช่นกัน ดังนั้น เจ้าของบ้านก็ต้องกลับมาชั่งน้ำหนักในดีว่าจะเลือกทำประกันแบบใดให้คุ้มค่า และมีเบี้ยประกันที่สมเหตุสมผลมากที่สุด

3. เลือกทำประกันอัคคีภัยบ้านที่เชื่อถือได้ และสอดคล้องกับเงื่อนไขธนาคาร

สำหรับคนที่กู้ซื้อบ้านและต้องทำประกันบ้าน โดยปกติแล้ว ธนาคารที่ไปติดต่อนั้นจะเป็นผู้เสนอประกันไฟไหม้บ้านให้เราได้เลือกตามความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ดี เจ้าของบ้านก็สามารถเลือกทำประกันกับบริษัทอื่น ๆ ตามเห็นสมควรได้ โดยมีเงื่อนไขว่า กรมธรรม์ที่เลือกทำนั้นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร รวมถึงธนาคารเจ้าของสัญญากู้ยังต้องเป็นผู้รับผลประโยชน์จากประกันบ้านด้วย ดังนั้น หากใครยังรู้สึกว่าประกันบ้านจากธนาคารยังไม่ตอบโจทย์ก็อย่าลืมตกลงเงื่อนไขกับธนาคารให้ดีก่อนตัดสินใจด้วย

เพียงเท่านี้ เจ้าของบ้านทุกคนก็เข้าใจถึงทุกรายละเอียดของประกันภัยอัคคีภัยเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งยังสามารถเลือกซื้อประกันบ้านที่เหมาะสมกับตัวเองได้ง่าย ๆ อีกด้วย ซึ่งหากเจ้าของบ้านคนไหนกำลังตามหาประกันบ้านที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ หรือกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่มีบริการเปรียบเทียบรายละเอียดประกันอย่างครบถ้วนให้พิจารณาก่อนตัดสินใจ ‘อีซี่ อินชัวร์’ ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้เจ้าของบ้านด้วยบริการเปรียบเทียบ และจัดสรรทุกรายละเอียดและทุกมุมมองของประกันบ้านให้ครบจบได้ในที่เดียว 

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ 

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *