ในปัจจุบันที่การดำเนินชีวิตนั้นเปลี่ยนแปลงไป สภาพแวดล้อมต่างๆก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ส่งผลทำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมายทั้งนี้ยังร่วมถึงในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บและสภาวะความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตราย และด้วยความที่หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปส่งผลทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนหันมาให้ความสนใจเรื่องของสุขภาพของลูกกันมากขึ้น
ทั้งนี้ก็เนื่องจากเด็ก ๆ นั้นมักจะซุกซนและมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรงเท่ากับผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ และด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้พ่อแม่หันมาสนใจทำประกันสำหรับเด็กมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยลดความเสี่ยงสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้กับเด็กๆเมื่อต้องเข้าโรงพยาบาล และเพื่อที่จะให้ลูกได้รับการรักษาที่ดี แต่จะเลือกประกันยังไงกันดี เพราะในปัจจุบันเองก็มีปริษัทประกันจำนวนมากที่ทำประกันสุขภาพเด็ก ซึ่งในวันนี้เรามีสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อแบบประกันเด็ก มาฝากกัน ซึ่งได้แก่
เรื่องของความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก หมายถึงว่า การเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ประกันก็จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลให้ สำหรับเด็กเล็กอาการเจ็บป่วยหรือผิดปกตินั้นบางอย่างจะสังเกตได้ค่อนข้างยาก ซึ่งเขาไม่สามารถบอกเราได้ แต่คนเป็นพ่อแม่ที่อยู่กับลูกทุกวันจะสามารถสัมผัสความผิดปกติเหล่านี้ได้และเมื่อพบความผิดปกติแล้ว
เราเองก็คงจะต้องพาลูกไปหาหมอหรือคลินิกเฉพาะสำหรับเด็ก และหากเราซื้อประกันที่คุ้มครองผู้ป่วยนอกให้กับลูก เราก็จะพาลูกไปหาหาหมอโรงพยาบาลเอกชลได้โดยไม่ลังเล
ความคุ้มครองแบบผู้ป่วยใน เป็นการให้ความคุ้มครองที่เด็กเองจะต้องเข้ารับการรักษาและนอนที่โรงพยาบาล ซึ่งโอกาสที่เด็กจะต้องเข้ารับการารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลนั้นก็ต้องมีมากกว่าผู้ใหญ่อยู่
เรื่องของเงื่อนไขความคุ้มครองตามกรอบวงเงินครั้งต่อครั้ง หรือเป็นแบบเหมาจ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเองจะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เพราะการซื้อประกันแบบที่มีกรอบวงเงินคุ้มครองแบบครั้งต่อครั้งนั้น บางครั้งก็อาจจะไม่เพียงพอกับค่ารักษาที่จะเกิดขึ้นจริง
ซึ่งในแต่ละบริษัทนั้นก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป อย่างในบางกรณีที่ให้ค่าห้องสูงสุดไม่เกิน 2,500.- แต่ค่ารักษาพยาบาลจำกัดไม่เกิน 10,000 บาท และ ค่าหมอไม่เกิน 300 บาท ซึ่งบางครั้งก็ไม่พอแล้วพ่อแม่อย่างเราก็ต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างนี้เอง ส่วนแบบเหมาจ่ายนั้นปกติแล้วก็จะกำหนดวงเงินตลอดปีเลยว่าไม่เกินเท่าไหร่ ซึ่งประกันแบบเหมาจ่ายส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่มีส่วนต่างหรือหากมีก็จะน้อยมาก
เรื่องของระยะเวลารอคอยและมีเงื่อนไข ซึ่งโดยปกติแล้วตอนซื้อประกันปีแรกจะต้องรอ 1 เดือนถึงจะสามารถใช้ประกันได้ แต่อย่างไรก็ดีขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละบริษัท แต่ประเด็นที่จะชี้ให้เห็นนี้คือในส่วนของ ระยะเวลารอคอยว่าหากเกิดเป็นโรคเดิมซ้ำแล้วจำเป็นที่จะต้องนอนโรงพยาบาล มีเงื่อนไขของระยะเวลารอคอยหรือไม่
แบบประกันมีความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ อย่างเช่นในกรณี ค่าชดเชยในการนอนโรงพยาบาล ค่าแพทย์ทางเลือก ค่ารังสีบำบัด ฯลฯ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาประกอบการพิจารณาว่า ลูกของเราเองต้องการในเรื่องเหล่านี้หรือไม่
หวังว่าสิ่งที่เรานำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพ่อแม่หลายคนที่กำลังมองหาประกันให้ลูก หวังว่าจะสามารถช่วยเลือกประกันที่เหมาะสมให้กับเด็กได้ การ ทำประกันสุขภาพเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับลูกของเราหรือไม่ ดังนั้นมีประกันเอาไว้อุ่นใจ เพราะเวลาที่ไม่สบายก็สามารถเข้าโรงพยาบาลตามที่ต้องการได้