เชื่อว่าทุกคนที่มีรถยนต์ต้องทำ ประกันภัยรถยนต์ และน่าจะเคยผ่านประสบการณ์การติดต่อเคลมประกันครั้งแรกกันมาทั้งนั้น วันนี้ผมมีเรื่องเล่ากับการ การเคลมประกันครั้งแรกในชีวิต มาเล่าให้ฟังเรื่องมีอยู่ว่า
ผมขับรถไปชนแบบไม่มีคู่กรณีคือชนถอยชนกับเสารั้วบ้านตัวเองด้วยความตกใจก็รีบลงมาดูก็เห็นว่าข้างรถมีรอยถลอกยาวพอสมควรแถมรถก็เพิ่งถอยมาได้ไม่นาน อีกอย่างเราเองก็ทำประกันชั้น 1ไว้ก็เลยเรียกประกันมาเลย ไม่ผิดหรอกครับผมถอยรถเข้าบ้านแล้วชนเสาตกใจโทรตามประกันเลย โดยที่ผมยังจอดรถคาไว้กับเสาตรงจุดที่ถอยชน
ซึ่งพนักงานเขาก็ดีมากๆมาให้ผมเหมือนกัน ตอนเขามาถึงเขาก็ขอดูเอกสารต่างๆ ใบขับขี่ ตรวจดูร่องรอยการชนและความเสียหาย อันที่จริงมันก็เป็นรอยบุบนิดๆและมีรอยถลอกเป็นแนวยาวพอสมควรและเห็นได้ชัดเจน ซึ่งพนักงานก็ถ่ายรูปตรงจุดที่ชน แล้วเขาก็ให้ผมเอารถออกแล้วถ่ายร่องรอยทั้งที่เสาและที่รถ หลังจากนั้นเขาก็ทำเอกสารการเคลมให้ซึ่งผมไม่เสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตอนแรกนึกว่าจะโดนเก็บเงินที่เขาเรียกกันว่าค่า excess เพราะเคยหาอ่านเรื่องค่าเสียหายต่าง ๆที่ต้องจ่ายอ่านเจอเขาก็ว่าต้องจ่ายกัน
ผมเลยถามกับพนักงาน เขาบอกว่ากรณีของผมไม่เสียเพราะแจ้งคู่กรณีได้ชัดเจน คือผมมีคู่กรณีคือเสารั้ว และมีร่องรอยการเสียหายที่เห็นได้ชัดเจนด้วย ซึ่งเขาบอกว่าจริงๆแล้วจะเคลมแห้งก็ได้คือหากเกิดกรณีแบบนี้อีกให้ผมถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานโดยให้ถ่ายแบบที่เขาถ่าย คือตรงจุดที่ชน รอยที่เสา รอยที่รถ รูปหน้ารถให้เห็นป้ายทะเบียนแล้วค่อยแจ้งพนักงานทำเคลมภายหลังได้ ซึ่งพนักงานบอกกับผมว่าให้อ่านในกรมธรรม์เพราะจะมีรายละเอียดที่ชัดเจน หรือมีข้อสงสัยให้โทรถามกับทางบริษัท
ซึ่งหลังจากนั้นผมก็เลยมาหาข้อมูลของกรมธรรม์ถึงได้รู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่รถชนเสา, ชนประตู , ชนต้นไม้ , ชนเสาไฟฟ้า, ชนกำแพง ,ชนคน, ชนสิ่งมีชีวิต หรืออะไรก็ตามที่อยู่บนถนนข้างถนนและแจ้งคู่กรณีได้ชัดเจน บริษัท ประกันภัยรถยนต์ เขาจะไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นแค่รอยขีดข่วน รอยถลอก รอยแตก รอยบุบ แต่เราต้องถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานชัดเจน ย้ำว่าต้องมีหลักฐานชัดเจน พนักงานจะตรวจสอบและออกใบเคลมให้เราไม่ว่าจะเคลมทันที่หรือเคลมภายหลังก็ตาม และที่หลายๆคนบอกว่าต้องจ่ายนั้นเป็นเพราะบางบริษัทประกันตีความหมายในส่วนนี้ไปอีกแบบว่าต้องแตกต้องบุบถึงจะเคลมแบบไม่เสียเงินได้ แต่จริงๆแล้วไม่ว่าหากเกิดรอยแบบไหนที่เกิดจาการชนและเราแจ้งคู่กรณีได้เราไม่ต้องเสียเงินค่า excess แม้แต่บาทเดียวตามที่ คปภ.ระบุไว้
ซึ่งผมรู้ตัวเลยว่าความรู้ด้าน ประกันภัยรถยนต์ นั้นน้อยจริงๆ ถ้าไม่เกิดเหตุแลตกใจจนโทรหาพนักงานผมคงไม่รู้อะไรเลย เพราะไม่เคยอ่านกรมธรรม์ แม้จะหาอ่านตามเน็ตแต่มันก็ไม่ชัดเจนเพราะหลายคนเล่าไม่เหมือนกัน ดังนั้นผมจึงอยากเล่าและแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านและที่สำคัญคือควรอ่านกรมธรรม์ให้ละเอียดไม่เข้าใจให้ถามพนักงานจะดีที่สุด