ความแตกต่างของยางรถยนต์

ความแตกต่างของยางรถยนต์ ความรู้ดี ๆ ที่แบ่งปันกันได้ ..

ความแตกต่างของยางรถยนต์

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องความแตกต่างของยางรถยนต์  ซึ่งยางที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ  ยางรถยนต์ธรรมดา กับยางเรเดียล  โดยทั่วไปแล้วยางรถยนต์จัดเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ช่วยในการขับเคลื่อนรถ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับตัวรถขณะที่ขับขี่ และที่สำคัญยังเป็นตัวช่วยในการระงับความสั่นสะเทือนของรถอีกด้วย

ซึ่งโครงสร้างของยางรถยนต์จะประกอบด้วย 6 อย่าง  แต่ที่ใช้กันส่วนใหญ่จะมี 2 ประเภท ได้แก่  ยางประเภทใช้ยางใน และ ประเภทยางที่ไม่ใช่ยางใน

หลังจากที่เราทำความรู้จักอย่างแบบคราวๆกันไปแล้วเราก็จะมาทำความรู้จักกับยางรถยนต์ธรรมดา กับยางเรเดียล  กัน  พร้อมถึงมาดูในเรื่องของข้อแตกต่างกันของยางทั้ง 2 แบบนี้  เริ่มจากยางธรรมดา

โดยทั่วไปแล้วยางธรรมดาจะประกอบขึ้นมาด้วยการใช้ผ้าไขว้ไปมาโดยทำมุม 45 องศากับเส้นรอบวงของยาง  จำนวนของผ้าที่ใช้มักจะขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการที่ใช้ให้ยางแข็งแรงมากเท่าไร  ลักษณะเด่นของยางธรรมดา คือ  ขณะขับขี่จะทำให้รู้สึกสบาย  การบังคับสามารถบังคับให้เลี้ยวได้ง่ายขณะอัตราเร็วต่ำ และที่สำคัญมีราคาที่ถูก

ส่วน ยางเรเดียล เป็นยางที่ประกอบขึ้นมาด้วยชั้นผ้าพันรอบยางให้ทำมุม 90 องศากับเส้นรอบวงของยาง  จึงเรียกแนวนี้ว่า แนวเรเดียล  โดยให้ชั้นยางมีชิ้นผ้าหรือแถบเหล็กเสริมหน้ายาง  ยางเรเดียลเป็นยางที่มีความหยืดหยุ่นกว่ายางธรรมดา ด้วยเหตุผลนี้เองส่งผลทำให้ขณะขับขี่รถไม่ค่อยจะสบายเท่ากับยางธรรมดา

แต่ในขณะเดียวกันขณะที่ขับรถที่ใช้ยางเรเดียล ในถนนไม่เรียบ  ยางเรเดียล จะให้ความหยืดยุ่นดีกว่ายางธรรมดาโดยเฉพาะเวลาที่เข้าโค้งหรือเลี้ยว   และถึงแม้ว่าจะขับในถนนที่เปียกน้ำก็ทำให้รู้สึกถึงความปลอดภัย  ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากยางเรเดียลมีหน้ายางที่เรียบแบน  มีดอกยางที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถรีดน้ำได้  ส่งผลทำให้ดอกยางสัมผัสกับผืนผิวถนนได้ดี

นอกจากนี้ด้วยความที่ยางเรเดียลมีอายุการใช้งานที่นานกว่ายางธรรมดาและด้วยเหตุผลบางอย่างส่งผลทำให้ราคาของยางเรเดียลมีราคาที่สูงกว่ายางธรรมดา  ในเรื่องของข้อเสียก็อย่างที่กล่าวไปว่า การใช้ยางเรเดียลจะทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าขับไม่สบาย  เวลาจะเลี้ยวแต่ละครั้งจะต้องใช้แรงหมุนพวงมาลัยมาก  ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยแนะนำว่าไม่ควรที่จะใช้ยางเรเดียล ผสมกับยางธรรมดาเป็นอันขาก  ควรใช้แบบใดแบบหนึ่งไปเลย  เพราะว่าในการออกแบบขนาดของยางขึ้นมาแต่ละแบบส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกของยาง  เส้นผ่าศูนย์กลางของขอบล้อรถ ของลึกของยาง

ในกรณีของยางเรเดียล จะมีตัว R รวมอยู่  ซึ่งตัวอักษรข้างหน้า R อาจจะเป็น S , H หรือ V ก็ได้  ซึ่งอักษรต่างๆเหล่านี้หมายถึงอัตราสูงสุดของยางที่เป็น กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ายางแต่ละแบบนั้นไม่เหมือนกัน และถูกออกแบบมาพร้อมกับการใช้งานที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน  ใครที่กำลังมองหายางมาเปลี่ยนให้กับรถคันโปรดของตัวเองก็ลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการตัดสิ้นใจในการเลือกซื้อยางได้  เพื่อที่คุณเองจะได้ยางที่ต้องการมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *