7 เหตุผลง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำประกันภัยรถยนต์

ประกันภาคสมัครใจ คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันชั้น 1 : ซ่อมรถเขา + ซ่อมรถเรา + รถชน + รถหาย + รถไฟไหม้

ประกันชั้น 2+ : ซ่อมรถเขา + ซ่อมรถเรา + รถชน (รถชนรถเท่านั้น) + รถหาย + รถไฟไหม้

ประกันชั้น 3+ : ซ่อมรถเขา + ซ่อมรถเรา + รถชน (รถชนรถเท่านั้น) ไม่คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้

ประกันชั้น 3 : ซ่อมรถเรา ไม่ซ่อมรถเขา ไม่คุ้มครองรถหาย และรถไฟไหม้

ประกันชั้น 2 : ซ่อมรถเขา + รถหาย + รถไฟไหม้ ไม่ซ่อมรถเรา 

ข้อดีของการทำประกันรถยนต์

เราปฏิเสธกันไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เราใช้ชีวิตกันด้วยความเสี่ยง “ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” คำๆ นี้ยังเป็นคำนิยามที่ใช้ได้อย่างดี โดยเฉพาะการขับรถในเมืองไทย เรามักจะสังเกตได้ว่ามีข่าวการเกิดอุบัติเหตุให้เราเห็นกันอยู่ทู๊กวัน นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไม? คนมีรถส่วนใหญ่จึงต้องทำ “ประกันภัยรถยนต์” เพื่อให้พี่ๆ เห็นภาพกันมากขึ้นตามจิ๊บไปดูกันเลยว่าทำไม? ต้องทำประกันรถยนต์

1. ลดภาระค่าซ่อมรถ

บางคนบอกว่าไม่เห็นจำเป็นต้องทำประกันรถเลย ไม่ได้ขับไปชนใครเค้านี่ ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้าพี่ๆ ทำประกันรถชั้น 1,2+,3+ ก็สบายใจได้เลยว่าถ้าเกิดเหตุการชน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมรถของตัวเองฝ่ายเดียวแน่นอน

2. รถหายก็คุ้มครอง

สมัยนี้ขโมยขโจรชุกชุมยิ่งกว่ายุง บ่อยครั้งนักที่เราเห็นข่าวหรือคลิป ว่ามีโจรมาขโมยรถ วิธีป้องกันของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่อีกวิธีที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ “การทำประกันรถยนต์” แต่ในส่วนของความคุ้มครองเรื่องรถยนต์สูญหายจะมีแค่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2+ และชั้น 2 เท่านั้น

3. คุ้มครองเมื่อรถไฟไหม้

ในกรณีที่ทำประกันรถยนต์ไว้ หากรถของพี่ๆ เกิดอุบัติชนขั้นรุนแรงจนถึงขั้นเกิดเพลิงไหม้ ประกันรถชั้น 1 ชั้น 2+ และชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองพี่ๆ อย่างแน่นอน ส่วนประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ จะไม่มีความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้

4. มีคนช่วยเหลือยามเกิดเหตุ

บ่อยครั้งนักที่เวลาเดินทางไปยังสถานที่ไกลๆ โชคชะตาชอบเล่นตลกอ่ะ อารมณ์ประมาณว่าขับรถมาตั้งนานไม่เกิดเหตุ แต่ดันมาเกิดเหตุเวลาขับรถไปลั้ลลาไกลๆ ถ้าทำประกันรถยนต์ก็สบายใจ หายห่วงได้เลย ไม่ว่าจะเกิดเหตุตอนเช้า สาย บ่าย ค่ำ หรือตกดึก ก็สามารถโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดูแลได้ตลอด 24 ชม. พี่ๆ จะไม่ถูกเทให้เหงาหงอยอยู่คนเดียวแน่นอน

5. แบ่งเบาค่าซ่อมรถของคู่กรณี

แน่นอน…ว่าถ้าพี่ๆ เป็นฝ่ายผิด ยังไงพี่ๆ ก็ต้องซ่อมรถให้เค้า ในกรณีที่ทำประกันรถยนต์เอาไว้หากค่าซ่อมรถยนต์ไม่เกินวงเงินทุนประกันก็จะไม่ถูกเรียกเก็บเพิ่ม แต่ถ้าพี่ๆ ไม่ทำประกันไว้ละก็ งานงอกแน่นอน ต้องมีกระเป๋าฉีกกันบ้างแหละ

6. น้ำท่วม…ประกันก็คุ้มครอง

ถนนบ้านเราบางแห่งแค่ฝนตกหนักไม่ถึง 3 ชม. น้ำก็ท่วมละจ้า บางทีจอดรถไว้เฉยๆ ฝนตกแปปเดียวน้ำท่วมรถขับออกไม่ได้สะงั้น ถ้าไม่ทำประกันรถยนต์เอาไว้ เจ้าของรถยนต์ก็ต้องเสียเงินซ่อมรถเองแบบปฏิเสธไม่ได้ หากพี่ๆ คนไหนต้องการความคุ้มครองเรื่องน้ำท่วมก็ต้องทำประกันชั้น 1 เลย ส่วนประกันชั้น 2+ กับ 3+ จะคุ้มครองบางแผนเท่านั้น ต้องถามพนักงานขายดีๆ ว่าคุ้มครองน้ำท่วมหรือป่าว

7. มีค่ารักษาพยาบาลให้

พ.ร.บ. รถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้เราทำก็จะมีความคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลอยู่ แต่จะเป็นวงเงินขั้นต่ำเท่านั้น ส่วนค่ารักษาพยาบาลที่เกินจากวงเงิน พ.ร.บ. เจ้าของรถต้องเป็นผู้ออกเอง โดยประกันรถยนต์ภาคสมัครใจชั้น 1,2+,3+,3,2 ก็จะมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเพ่ิ่มเติมให้ เท่ากับว่าสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากวงเงินประกันรถเพิ่มได้อีก

จะเห็นได้ว่าการทำประกันรถยนต์เป็นการกระจายความเสี่ยงที่คุ้มค่าสุดๆ จ่ายเบี้ยหลักหมื่น ความคุ้มครองเป็นแสน เป็นล้าน ถ้าพี่ๆ อยากทำประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด จิ๊บแนะนำว่าให้ทำ “ประกันชั้น 1” จะดีที่สุด นอกจากจะคุ้มครองกรณีรถชนรถแล้ว หากขับรถไปชนเสา ประตู ชนแบบไม่มีคู่กรณี หรือน้ำท่วมจนรถยนต์เสียหาย ประกันชั้น 1 ก็คุ้มครอง

หากพี่ๆ ไม่รู้ว่าจะทำประกันรถ หรือต่อประกันรถยนต์ชั้น 1,2+,3+,3,2 ที่ไหนดี พี่ๆ สามารถเช็คเบี้ยประกันรถออนไลน์ได้ฟรี มากกว่า 20 บริษัทชั้นนำ ที่มาพร้อมกับบริการเสริมสุดพิเศษ ชำระด้วยบัตรเครดิต 0% สูงสุดถึง 10 เดือน, บริการรถใช้ระหว่างซ่อม, ฟรีค่า Taxi ระหว่างซ่อม, ปรึกษาฟรี 24 ชม. ฯลฯ ที่สำคัญๆ ถ้าไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถผ่อนประกันได้ ไม่เก็บดอกเบี้ยเพิ่มด้วยนะฮะ