ประกันชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง กรณีที่บริษัทประกันไม่จ่ายตัง

สำหรับหลาย ๆ คนอาจจะมีความรู้เรื่องประกันภัยรถยนต์มาบ้าง ไม่ว่าจะศึกษาด้วยตัวเองหรือเคยทำมาประกันมาก่อน แต่หากถามว่า ประกันชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง ผมเชื่อว่าอาจจะตอบได้ไม่ชัดเจนทุกคน อย่างที่รู้กันครับว่า ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จัดเป็นประเภทที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด ดูแลเกือบจะทุกกรณี แต่สำหรับผู้ที่ได้ทำประกันไปแล้ว ควรจะศึกษาเอกสารในกรมธรรม์ของท่านให้ครบถ้วน ว่าบริษัทที่ตัวเองได้ทำไปนั้นคุ้มครองครอบคลุมกับสิ่งที่ตัวเองไปประสบเหตุมาหรือเปล่า เพราะว่าเงื่อนไขความคุ้มครองข้อยิบย่อยนั้นจะเยอะ และแต่ละบริษัทนั้นไม่เหมือนกัน

 

ประกันชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง

เคยได้ยินใช่ไหมล่ะครับว่า ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะชนสุขนัขตัดหน้า ชนต้นไม้ เสาไฟ ถอยรถยนต์ประตูบ้าน อันนี้เขาเรียกว่า การชนที่ไม่มีคู่กรณี แต่อยากให้ลองคิดกันเล่น ๆ ดูว่า หากเรานำรถไปใช้ในทางที่ผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่าไฟแดง ไปยันขนสิ่งของผิดกฏหมาย หรือเมาแล้วขับ ล้วนแล้วแต่เป็นการทำผิดกฏหมาย นอกจากจะโดนจับโดนปรับแล้ว หากไปเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คุณจะไม่ได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัยที่ท่านได้ทำไว้ ไม่ว่าจะเงื่อนไขอะไรก็ตาม แต่จะมีเงื่อนไขอะไรบ้างที่คนส่วนใหญ่จะสงสัยว่าทำไมประกันจะไม่จ่าย และไม่รับเคลม

ไม่คุ้มครองเหตุการณ์ก่อการร้าย หรือเกิดสงคราม

สำหรับเหตุก่อการร้ายนั้นบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้ เหตุระเบิด ภัยคุกคามต่าง ๆ แต่ก็มีบางบริษัทที่รับเงื่อนไขส่วนนี้ โดยให้เป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับผู้ซื้อประกัน และสำหรับการเกิดสงคราม นั้น ไม่ได้หมายถึงสงครามกลางเมืองเพียงอย่างเดียว รวมไปถึงการรุกราน วัตถุอาวุธปรมาณู รวมไปถึง โรงงานนิวเคลีย์ระเบิด การแผ่รังสี อื่น ๆ ดูแล้วอาจจะเกิดขึ้นได้ยากสำหรับการรุกรานจากเพื่อนบ้านหรือ การมีวัตถุปรมาณู

ไม่คุ้มครองหากใช้รถในทางที่ผิดกฏหมาย

  • ไม่มีใบขับขี่ : ซึ่งข้อนี้ถือว่าผิดชัดเจนมาก ๆ เพราะถ้าไม่มีใบอนุญาติขับขี่ก็ไม่ควรนำรถออกมาใช้งาน ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม รวมไปถึงใบขับขี่ที่หมดอายุไปแล้ว ไม่ยอมไปต่ออายุ จนกระทั้งไปเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ต้องแยกระหว่าง กรณีไม่มีใบขับขี่แต่เป็นฝ่ายถูกเพราะในกรณีนี้บริษัทประกันของเราจะเป็นฝ่ายเรียกร้องค่าเสียหายจากอีกฝ่ายให้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีคือควรมีใบขับขี่ที่ใช้งานได้ติดตัวเสมอในขณะขับรถ
  • ขนของผิดกฏหมาย : ขนยาเสพติด ขนของผิดกฏหมายทุกประเภท จะรู้เห็น หรือไม่รู้ หากเป็นรถที่ไม่ก่อเหตุมา บริษัทประกันภัยจะไม่คุ้มครองรถยนต์ที่ใช้ทำสิ่งผิดกฏหมาย
  • เมาแล้วขับ : นอกจากจะโดนพี่ตำรวจจับ โดนปรับ เป็นหมื่น หรืออาจจะทั้งจำทั้งปรับ หากนำไปเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา บริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบ เพราะมองว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยกฏหมายกำหนดไว้ว่า “ห้ามมิให้ขับขี่รถในขณะเมาสุรา หรือของมึนเมาอื่นๆ โดยมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
  • แต่งรถเพื่อใช้ความเร็ว : ดัดแปลงสภาพรถเพื่อเอาไปใช้ในการแข่งขันความเร็ว ไม่ใช่เพื่อเพิ่มสมรรถภาพของรถ นอกจากผิดกฏหมายแล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาบริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบ แต่สำหรับเพื่อเพิ่มสมรรถภาพ เช่น ยางรถยนต์ ระบบเบรก โช๊คอัพ ก็สามารถแจ้งให้บริษัทประกันทราบได้ แต่จะมีเงื่อนไขอะไรก็แล้วแต่บริษัทประกัน เช่นบางบริษัทรับอุปกรณ์แต่งเพิ่มได้ ไม่เกินราคาสองหมื่นบาท หากเกิดอุบัติเหตุมาต้องชดใช้ส่วนที่นอกเหนือเอง

ไม่คุ้มครองหากไม่ได้ใช้รถนาน

อุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถยนต์ล้วนแล้วแต่ต้องดูแล หมั่นเช็คสภาพ เพราะถ้าจอดไว้นาน ๆ ไม่ตรวจสภาพรถ ไม่ได้สตาร์ทหรือขับไปไหนเลย อาจจะมีอุปกรณ์บางอย่างเกิดการเสียหายได้ แล้วสามารถเคลมได้ไหม ไม่ว่าจะเสียหายมากแค่ไหน บริษัทจะมองว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากการเสื่อมสภาพ ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และอยู่นอกเหนือจากกรมธรรม์

ไม่คุ้มครองหากเกิดอุบัติเหตุจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุไว้ว่า การยกเว้นความเสียหายต่อรถยนต์ไม่คุ้มครอง ข้อ 7.3 คือความเสียหายโดยตรงต่อรถยนต์ ที่เกิดจากการบรรทุกน้ำหนัก หรือจำนวนผู้โดยสารเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ หมายความว่า ความเสียหายที่เป็นผลจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน จะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่ถ้าหากบรรทุกน้ำหนักเกินไปแล้วเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายนี้จะยังคงได้รับความคุ้มครอง แต่ส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันภัยจะมองว่าเป็นความประมาทของผู้ทำประกัน และใช้รถในทางที่ผิดกฏหมาย ไม่ใช่รถส่วนบุคคลหากบรรทุกคนเกิน

ไม่คุ้มครองหากตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ

หากเจ้าของรถยนต์หัวหมอ อาจจะพยายามหวังเงินจากบริษัทประกันภัย โดยการจงใจให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเทคนิคอะไรก็ตาม เช่น นำรถยนต์ไปชนกับญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูง นอกจากบริษัทประกันภัยจะไม่คุ้มครองแล้ว บริษัทประกันอาจจะฟ้องร้องผู้ที่สร้างสถานการณ์ขึ้นมา เพราะบริษัทประกันจะมองว่าเป็นการจงใจให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น และอาจจะเข้าข่ายผิดกฏหมายด้วย ตามมาตรา 358 ว่าด้วย มาตรา 358 “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ไม่คุ้มครองหากใช้รถผิดประเภท

การใช้รถยนต์ในทางที่ผิดประเภท ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บริษัทประกันภัยจะไม่รับเคลม เพราะการใช้เป็นรถสารธาณะนั้น บริษัทประกันภัยจะมองว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น อย่างเช่น รถที่ใช้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ดันไปใช้ในเชิงพานิชย์ เช่น วิ่งรับคนเป็นแท็กซี่ หรือแอปอูเบอร์ต่าง ๆ ถ้าหากไปเกิดอุบัติเหตุเข้า บริษัทประกันภัยอาจจะไม่ให้ความคุ้มครองได้

ไม่คุ้มครองหากไม่แจ้งการดัดแปลงตัวรถให้ประกันทราบ

ไม่ว่าจะแต่งเติมเสริมความเร็ว เสริมหล่อ เสริมสมรรถภาพ ก็ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยให้ทราบ รวมถึงระบบแก๊สรถยนต์ ก็สามารถติดตั้งได้ แต่การจะแต่งรถให้มันเหมาะกับตัวเองนั้น ต้องคิดถึงหลักกฏหมายด้วยว่าผิดกฏหรือเปล่า เพราะนอกจากจะไปเกิดอุบัติเหตุแล้วบริษัทประกันภัยอาจจะไม่รับผิดชอบ

ประกันชั้น 1 ไม่มีคู่กรณี

ส่วนใหญ่แล้วประกันชั้น 1 เมื่อทำการเคลมแห้ง อาจจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก หากไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ค่า Excess คือค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากความประมาทของตัวผู้ขับขี่เอง เช่น ขับรถไปเหยียบตะปู ทำให้ยางแตก ก้อนหินที่กระเด็นมาโดนทำให้เกิดรอย ส่วนการเคลมแห้งแบบที่ไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก เช่น การโดนชนแล้วหนี แต่สามารถตามจับจากกล้องวงจรปิดได้ หรือ ชนเสาไฟ ประตูบ้าน กำแพงบ้าน หรือแม่แต่กระทั้งชนคน

รถกี่ปีถึงทำประกันชั้น 1 ไม่ได้

โดยส่วนใหญ่แล้ว บริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครองรถยนต์ ที่มีอายุ 1 – 5 ปี แต่ทุกวันนี้มีบริษัทประกันภัยมากมายต่างแข่งกัน อาจมีการรับประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 รับไปยัน 10 ปีก็มี แต่ก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป หรืออาจเป็นการต่ออายุกับบริษัทประกันภัยเดิม รวมถึงต้องพิจารณาคู่กับการขับรถประวัติดี เช่นประวัติการเคลมรถยนต์

บทความที่น่าสนใจ : ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง

 

ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ถือเป็นชั้นที่คุ้มครองครอบคลุมแบบครบวงจรที่สุด เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ เกี่ยวกับประกันภัย ไม่รู้ว่า ประกันชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง หรือเพิ่งออกรถใหม่ เพราะว่าคุ้มครองการชนที่ไม่มีคู่กรณี หากนำไปชนกำแพง ถอยชนเสาไฟฟ้า จะเป็นการชนที่ไม่มีคู่กรณี เคสแบบนี้จะพบได้บ่อยในผู้ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการขับขี่ หรือหากยังไม่มั่นใจแนะนำให้ลองไปปรึกษาโบรกเกอร์ประกันภัยดู สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่รู้จะไปทำ ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี หรือไม่ค่อยมีความรู้ด้านประกันภัย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาประกันชั้น 1 อยู่ได้ไม่มากก็น้อยครับ

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *