ประกันรถยนต์

รวมเรื่องประกันภัยที่วัยทำงานต้องรู้ ฉบับแสนง่าย สไตล์ อีซี่

วัยทำงานเป็นวัยที่ถือว่าเป็นช่วงสำคัญช่วงหนึ่งของชีวิตมนุษย์ เพราะเป็นวัยที่ต้องใช้ทั้งพละกำลังและความคิดค่อนข้างมาก อย่างที่ทราบกันดีว่างานแต่ละแบบแต่ละประเภทมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน ซึ่งก็แลกมากับรายได้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการทำประกันสำหรับวัยทำงานจึงเป็นทางเลือกที่ดี โดยประกันในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกทำ ผู้ทำประกันควรทำความเข้าใจเสียก่อนว่าประกันแบบใดที่เหมาะกับวิถีชีวิตของตน เนื่องด้วยหลักใหญ่ใจความในการทำ ประกันภัยรถยนต์ ก็คือบรรเทาความรุนแรงของความเสียหาย เช่น ถ้าเจ็บป่วยแล้วต้องจ่ายค่ารักษาด้วยตัวเองทั้งหมด การทำประกันสุขภาพไว้จะช่วยให้ไม่ต้องจ่ายในจำนวนมาก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าทำงานมาหลายปีเพื่อเอาเงินมารักษาตัวในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

รวมเรื่องประกันภัยที่วัยทำงานต้องรู้

รวมเรื่องประกันภัยที่วัยทำงานต้องรู้

ประกันภัยประเภทที่วัยทำงานควรทำ มีดังต่อไปนี้

  • ประกันภัยอุบัติเหตุ อย่างที่ทราบกันดีว่าอุบัติเหตุเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่บอกล่วงหน้า และคำนวณความเสียหายก่อนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่มีความเสี่ยง เช่น อาชีพที่ต้องขับรถบ่อยๆ ทำงานในที่ที่ต้องสัมผัสสารเคมี หรือแม้แต่การเดินทางด้วยรถส่วนตัว หรือรถสาธารณะเป็นระยะทางไกลๆ ก็ตาม การทำประกันอุบัติเหตุจะช่วยบรรเทาความเสียหายได้มาก โดยประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือมีการจ่ายชดเชยให้กรณีที่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • ประกันภัยรถยนต์ รวมถึงยานพาหนะหรือทรัพย์สินที่ใช้ทำงาน ในกรณีนี้ยกตัวอย่างเป็นการทำประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะใช้รถมากหรือน้อยก็ตาม ควรทำประกันภัยติดไว้เสมอ โดยประกันภัยรถยนต์เองก็มีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกันประเภท 1 ชั้น 2 หรือ ประกันชั้น 3 บางคนมีรถยนต์แต่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะอาจถูกโจรกรรมก็ได้ ดังนั้นควรพิจารณาเลือกจากพฤติกรรมการใช้และการเก็บรักษารถยนต์ เช่นถ้าต้องจอดรถนอกบ้านก็ควรทำประกันประเภทป้องกันรถหายไว้ด้วย
  • ประกันภัยสุขภาพ ในกรณีนี้จะยกตัวอย่างโรคที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากที่สุด คือ มะเร็ง โดยปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุการเป็นมะเร็งได้แน่ชัด เพราะทุกๆ วันร่างกายของมนุษย์มีการเสียหายและซ่อมแซมเพิ่มเติมทุกวัน อาจจะมีสักวันที่ร่างกายทำงานผิดปกติจึงเป็นที่มาของเนื้องอกและมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่ใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน โดยไม่สามารถการันตีได้ว่าจะหายเป็นปกติด้วยซ้ำ ดังนั้นการทำประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลส่วนนี้ได้มาก เพราะคนที่เป็นมะเร็งยังต้องมีค่ารักษาด้านอื่นอีกมาก จนกว่าร่างกายหรือสุขภาพจะทุเลาหรือเป็นปกติ

เมื่อพิจารณาดูแล้วจะเห็นได้ว่าภัยทุกประเภทมีอยู่รอบตัว บทความนี้ไม่ได้ต้องการให้ผู้อ่านเป็นคนที่ระแวงกับการใช้ชีวิตประจำวัน  ส่วนการทำประกันมากเกินไปก็ใช่ว่าจะเป็นผลดีเพราะทรัพย์สินที่หามาได้อาจจะหมดไปกับการทำประกันและไม่สามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้ ดังนั้นควรจำกัดงบในการทำประกันไว้ด้วย เช่น 10% ของรายได้ทั้งปีก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

ขอบคุณรูปภาพจาก Asn Broker ,Rabbit Finance

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *